อยากลองแต่งบทกลอนดูครับ เปลี่ยนบรรยากาศ
ใบไม้ ไหวๆ อันเขียวสด
สดชื่น ชื่นใจ ในทุก ขณะ
บางใบ.....
ปลิดปลิว หลุดไป ไม่ยี่หระ
ต่อ ความตาย อันเป็น ธรรม ของมัน
มดแดง มดดำ บนโขดหิน
ยินเสียง น้ำไหลริน ไหลๆ
ตะไคร่ เขียวคร่ำ เป็นเงาไพร
กิ่งใบ แตกหน่อ ชีวิตงาม....
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
หากพบพระพุทธเจ้า จงฆ่าเสีย
เรื่องของเซน เป็นเรื่องที่คิดแบบชาวบ้านธรรมดาไม่ได้
ดังเช่นคำกล่าวนี้เป็นต้น "หากพบพระพุทธเจ้า จงฆ่าเสีย"
ไม่ได้เป็นการฆ่าจริงๆ แต่หมายความว่า การค้นหาความจริงแท้ ต้องหาด้วยตนเอง
ไม่ใช่การ "เชื่อตามที่อาจารย์บอก"
แม้กระทั่งว่า อาจารย์นั้นจะน่าเชื่อถือขนาดไหนก็ตาม คุณยังต้องค้นหา ด้วยตัวคุณเอง
ต้องกำจัด ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดสำหรับเราออกไปให้หมด
เรา เท่านั้น ที่สอนตัวเราเองได้
อาจารย์ เป็นเพียง "มือที่ชี้ไปที่ดวงจันทร์เท่านั้น" หาใช่ดวงจันทร์ไม่
ดังเช่นคำกล่าวนี้เป็นต้น "หากพบพระพุทธเจ้า จงฆ่าเสีย"
ไม่ได้เป็นการฆ่าจริงๆ แต่หมายความว่า การค้นหาความจริงแท้ ต้องหาด้วยตนเอง
ไม่ใช่การ "เชื่อตามที่อาจารย์บอก"
แม้กระทั่งว่า อาจารย์นั้นจะน่าเชื่อถือขนาดไหนก็ตาม คุณยังต้องค้นหา ด้วยตัวคุณเอง
ต้องกำจัด ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดสำหรับเราออกไปให้หมด
เรา เท่านั้น ที่สอนตัวเราเองได้
อาจารย์ เป็นเพียง "มือที่ชี้ไปที่ดวงจันทร์เท่านั้น" หาใช่ดวงจันทร์ไม่
จิตหนึ่ง
ข้างเตียงของผม จะมีหนังสือเกี่ยวกับเซนอยู่ 3-4 เล่ม ได้แก่
1. สูตรของเว่ยหล่าง
2. คำสอนฮวงโป
3. กุญแจเซน
4. วิถีแห่งเซน (โอโช)
5. มังกรเซน
หลังจากที่อ่านมังกรเซนจบไปแล้ว จึงได้หยิบ คำสอนฮวงโป ขึ้นมาอ่านเล่นๆ พบกับคำว่า "ความว่าง" ฮวงโปบอกว่า ความว่างกับพุทธะ คือสิ่งเดียวกัน
เปรียบได้กับความว่างในท้องฟ้า แม้แสงอาทิตย์จะสาดส่องมาในตอนกลางวัน หรือแสงจันทร์สาดส่องในตอนกลางคืน ความว่างก็ยังคงอยู่ที่เดิม
ความว่าง นั่นคือ จิตว่าง จิตหนึ่ง พลังจักรวาล คือ พุทธะ คือ เซน นั่นเอง
ผมลองปฏิบัติโดย มองให้เห็นจิตว่างอันนั้น ตอนที่มีสมาธิ คือตอนขับรถมาทำงานนั่นเอง ก็ได้พบจริงๆ
คราหนึ่งฮวงโปกล่าวว่า "สิ่งนั้น เห็นนั้นตำตาเธออยู่แท้ๆ แต่ลองใช้เหตุผลเอากับมันสิ มันจะหายไปในทันที"
1. สูตรของเว่ยหล่าง
2. คำสอนฮวงโป
3. กุญแจเซน
4. วิถีแห่งเซน (โอโช)
5. มังกรเซน
หลังจากที่อ่านมังกรเซนจบไปแล้ว จึงได้หยิบ คำสอนฮวงโป ขึ้นมาอ่านเล่นๆ พบกับคำว่า "ความว่าง" ฮวงโปบอกว่า ความว่างกับพุทธะ คือสิ่งเดียวกัน
เปรียบได้กับความว่างในท้องฟ้า แม้แสงอาทิตย์จะสาดส่องมาในตอนกลางวัน หรือแสงจันทร์สาดส่องในตอนกลางคืน ความว่างก็ยังคงอยู่ที่เดิม
ความว่าง นั่นคือ จิตว่าง จิตหนึ่ง พลังจักรวาล คือ พุทธะ คือ เซน นั่นเอง
ผมลองปฏิบัติโดย มองให้เห็นจิตว่างอันนั้น ตอนที่มีสมาธิ คือตอนขับรถมาทำงานนั่นเอง ก็ได้พบจริงๆ
คราหนึ่งฮวงโปกล่าวว่า "สิ่งนั้น เห็นนั้นตำตาเธออยู่แท้ๆ แต่ลองใช้เหตุผลเอากับมันสิ มันจะหายไปในทันที"
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
คาราบาวกับ Zen

ผมชอบน้าแอ๊ดมานานแล้ว แต่มีช่วงหนึ่งที่หยุดฟังเพลงแกไป คือเบื่อนั่นเอง แต่ช่วงนี้ได้กลับมาฟังใหม่แล้วพบว่า เพลงของแกมีความเกี่ยวข้องกับเซนพอสมควร (ที่จริงน้าแอ๊ดเคยมีงาน ชื่อว่า โฟล์ก เซน ด้วย) ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้สนใจ
แต่เมื่อครั้งหลังนี่มาฟังงานแก แล้วรู้สึกว่ามีความเป็นเซนมาก เช่น เพลง "ความคิดกบฎ", "ชายที่โคนต้นโพธิ์" ในชุด "เหลืองหางขาว"
โดยพยายามแกะเนื่้อเพลง "ชายที่โคนต้นโพธิ์" มาฝากผู้อ่าน ดังนี้
แต่เมื่อครั้งหลังนี่มาฟังงานแก แล้วรู้สึกว่ามีความเป็นเซนมาก เช่น เพลง "ความคิดกบฎ", "ชายที่โคนต้นโพธิ์" ในชุด "เหลืองหางขาว"
โดยพยายามแกะเนื่้อเพลง "ชายที่โคนต้นโพธิ์" มาฝากผู้อ่าน ดังนี้
นกโผบินอยู่บนฟ้า ปลาแวกว่ายอยู่ในน้ำ
ความดี ไม่มีคำถาม ความเลว ไม่มีคำตอบ.....
สองชายหัวใจแตกต่าง ปล่อยวาง และชอบกอบโกย
แม้กาลเวลาร่วงโรย ผู้ใด เล่ารู้เท่าทัน
ต่างมาเยี่ยมโลกครั้งหนึ่ง ไม่นาน ก็ผ่านเลยวัน
หลงเหลือ สิ่งใดแก่นสาร เยี่ยงชาย ที่โคนต้นโพธิ์
นกโผบินอยู่บนฟ้า ปลาแวกว่ายอยู่ในน้ำ
ความดี ไม่มีคำถาม ความเลว ไม่มีคำตอบ....
ความดี ไม่เคยปรากฏ ความชั่วปิดบังซ่อนเร้น
ชายเขลา เย่อหยิ่่ง เลือดเย็น ไม่ต่างสิงสัตว์วสา
ห่างไกลเกินธรรมชาติ มักมากกิเลสตัณหา
มัวเมาอำนาจเงินตรา หาเพียงก็แค่ท้องอิ่่ม
วันหนึ่งลูกชายล้มป่วย ความซวยหล่นทับผิดที่
บางทีบทเรียนบทนี้ ทวยเทพยดาดลใจ ให้ชายสมญาว่าพ่อ
ทุ่มเทกระทำเพื่อลูกชาย เงินทองซื้อหาไม่ได้ สายใย สายใจแทบขาด
..... Solo.....
เงียบงันเนิ่นนานเท่าไร ไม่มีสิ่งใดตอกย้ำ ความทุกข์ท่านว่าสีดำ
แต่ ธรรม คนเป็นสีขาว ผู้ชายหัวใจเย่อหยิ่ง บัดนี้ ผมสีดอกเลา
พนมมือ วิงวอนเหนือเกล้า กราบไว้ผู้เฒ่า ที่โคนต้นโพธิ์
นกโผบินอยู่บนฟ้า ปลาแวกว่ายอยู่ในน้ำ
ความดี ไม่มีคำถาม ความเลว ไม่มีคำตอบ.....
--------------------------------------------------------------------
โอ้โห..... สุดยอด จริงๆ
เขียนแข่งกับความโง่
ใจจริงแล้ว ผมไม่อยากเขียนบล็อกเลย (แต่จรืงๆเคยเขียนไดอารีไว้อ่านเอง) แต่อย่างที่เคยบอกไปแล้วในบทความแรกว่า เรื่องเซน มีคนเขียนไว้น้อยมาก หรือในเมืองไทยแทบจะไม่มีคนรู้จักเลยก็ว่าได้ พอพูดถึง Zen คนอาจคิดไปถึง การไม่จ่ายตัง หรือไม่ก็ร้านอาหารญี่ปุ่น
ผมเลยต้องเขียน
เพื่อแข่งกับความไม่รู้ หรือความโง่ ของชาวโลกมนุษย์
คนที่รู้เรื่องของ ธรรม ย่อมอยู่อย่าง สบายตัว เบาตัว
แต่คนที่ไม่รู้ อีกมากมาย พวกเขาแบกอะไรไว้บ้าง บนบ่า บนสมอง
คนรู้เรื่องของ ธรรม ในแบบเถรวาทนั้น มีมากแล้ว บาลีต่างๆก็มีมากมาย
แต่เรื่องของ Zen .... ยิ่งพูด ยิ่งผิด ยิ่งสอน ยิ่งผิด ยิ่งเขียน ยิ่งผิด
แต่ถ้าไม่พูด ไม่เขียน ไม่สอน คนก็ไม่มีทางรู้เลย
ผมเลยต้องเขียนๆๆๆ
พอเขียนไปเรื่อยๆ ก็เกิดความสนุกขึ้นมาบ้าง เลยเป็น Hobby ไปเลย
วันหนึ่ง อาจรวมเล่ม พิมพ์แข่งกับ วินทร์ เลียววาริณ บ้างก็ได้ ฮ่าๆๆ
เมื่อผมเขียน.... ผมได้รับความสุข
เมื่อคุณอ่าน..... สุขหรือไม่สุข เรื่องของคุณ
แต่ถ้าสุขบ้าง ผมก็ดีใจ
แต่ไม่มีทาง ที่ผมจะหยุดเขียน.... ยกเว้นหยุดลมหายใจนั่นล่ะ
ผมเลยต้องเขียน
เพื่อแข่งกับความไม่รู้ หรือความโง่ ของชาวโลกมนุษย์
คนที่รู้เรื่องของ ธรรม ย่อมอยู่อย่าง สบายตัว เบาตัว
แต่คนที่ไม่รู้ อีกมากมาย พวกเขาแบกอะไรไว้บ้าง บนบ่า บนสมอง
คนรู้เรื่องของ ธรรม ในแบบเถรวาทนั้น มีมากแล้ว บาลีต่างๆก็มีมากมาย
แต่เรื่องของ Zen .... ยิ่งพูด ยิ่งผิด ยิ่งสอน ยิ่งผิด ยิ่งเขียน ยิ่งผิด
แต่ถ้าไม่พูด ไม่เขียน ไม่สอน คนก็ไม่มีทางรู้เลย
ผมเลยต้องเขียนๆๆๆ
พอเขียนไปเรื่อยๆ ก็เกิดความสนุกขึ้นมาบ้าง เลยเป็น Hobby ไปเลย
วันหนึ่ง อาจรวมเล่ม พิมพ์แข่งกับ วินทร์ เลียววาริณ บ้างก็ได้ ฮ่าๆๆ
เมื่อผมเขียน.... ผมได้รับความสุข
เมื่อคุณอ่าน..... สุขหรือไม่สุข เรื่องของคุณ
แต่ถ้าสุขบ้าง ผมก็ดีใจ
แต่ไม่มีทาง ที่ผมจะหยุดเขียน.... ยกเว้นหยุดลมหายใจนั่นล่ะ
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
นั่งสมาธิตาย
จากหนังสือ "มังกรเซน" ของ วินทร์ เลียววาริณ นั้น ผมอ่านไปเรื่อยๆ มาฉุกใจอยู่ที่ การตายของปรมาจารย์เซนทั้งหลาย
พบว่าส่วนใหญ่ มักจะกำหนดท่าตายได้ โดยกำหนดให้ตัวเองตายในท่า "นั่งขัดสมาธิ" เมื่อผมนึกภาพตามแล้วรู้สึกเหลือเชื่อพอสมควร
แต่เคยตั้งปณิธานไว้เหมือนกันว่า "จะไม่ยอมตายในโรงพยาบาล" แน่นอน หากผมตายโดยมีเข็มต่างๆยึดโยงอยู่กับตัวแล้ว รู้สึกสมเพศตัวเองน่าดู เลยพาลไปนึกถึงประวัติของ เล่่าจื้อ อีก โดยประวัติเล่าว่า เมื่อเล่าจื้อถึงกำหนดของชีวิตแล้ว ได้กล่าวลากับลูกศิษย์แล้ว เดินทางไปยังภูเขาหิมาลัย เพื่อจบชีวิตแบบสันโดด
ผมยกย่องในวิธีคิดของเล่าจื้อ...ในเรื่องนี้
เห็นหลายคน เมืื่อใกล้ตาย กลับมีแต่ความกลัว ไม่อยากห่างจากผู้คน....
หลายคน ไม่อยากตาย ให้่หมอยื้อชีวิตไว้ให้นานที่สุด
ทั้งการนั่งขัดสมาธิ และ การปลีกวิเวก สำหรับผมแล้ว สุดยอดจริงๆ...
มีอาจารย์เซนบางท่าน ก่อนตายกล่าวว่า "ไม่มีการมา ไม่มีการไป"
อยากเขียนเรื่องนี้
..... ให้พวกคุณ ลองคิดกันดูครับ......
พบว่าส่วนใหญ่ มักจะกำหนดท่าตายได้ โดยกำหนดให้ตัวเองตายในท่า "นั่งขัดสมาธิ" เมื่อผมนึกภาพตามแล้วรู้สึกเหลือเชื่อพอสมควร
แต่เคยตั้งปณิธานไว้เหมือนกันว่า "จะไม่ยอมตายในโรงพยาบาล" แน่นอน หากผมตายโดยมีเข็มต่างๆยึดโยงอยู่กับตัวแล้ว รู้สึกสมเพศตัวเองน่าดู เลยพาลไปนึกถึงประวัติของ เล่่าจื้อ อีก โดยประวัติเล่าว่า เมื่อเล่าจื้อถึงกำหนดของชีวิตแล้ว ได้กล่าวลากับลูกศิษย์แล้ว เดินทางไปยังภูเขาหิมาลัย เพื่อจบชีวิตแบบสันโดด
ผมยกย่องในวิธีคิดของเล่าจื้อ...ในเรื่องนี้
เห็นหลายคน เมืื่อใกล้ตาย กลับมีแต่ความกลัว ไม่อยากห่างจากผู้คน....
หลายคน ไม่อยากตาย ให้่หมอยื้อชีวิตไว้ให้นานที่สุด
ทั้งการนั่งขัดสมาธิ และ การปลีกวิเวก สำหรับผมแล้ว สุดยอดจริงๆ...
มีอาจารย์เซนบางท่าน ก่อนตายกล่าวว่า "ไม่มีการมา ไม่มีการไป"
อยากเขียนเรื่องนี้
..... ให้พวกคุณ ลองคิดกันดูครับ......
มึนหัว
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้เกิดอาการติดเกมขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ คือเล่นทั้งเกม PC และ PSP เล่นเกือบทั้งวัน ปรากฎว่าเมื่อ จะไปนอนเกิดอาการปวดหัวขึ้นมาพอสมควร เกิดอาการมึนๆ แน่นอนว่าต้่องเป็นทุกข์แน่ๆ มันเป็นสิ่งที่ "มากเกินไป" การเสพอะไรมากเกินไปย่อมไม่มีข้อดี
แต่บางทีรสชาตืของมันก็ช่างเย้ายวนให้เราติด.... จนลืมตัว.....
พอรู่้ตัวอีกทีก็มักจะสายเกินไป
ผมจึงได้ "หยุด" มันชั่วขณะ..... มองเห็นข้อมูลในสมองที่มันแล่นไปมาอย่างรวดเร็ว มันชวนให้เรากลับไปเล่นอีก
ร่างกายเราล้าแล้ว แต่สมองมันไม่เคยล้า..... (นี่แหละที่ทำให้เราฝัน แม้กระทั่งตอนนอนหลับ)
ผมจึงใช้วิชา อิกคิวซัง แตะน้ำลาย นั่งสมาธิ (จริงๆแล้วคือนั่งกินส้ม หน้าบ้าน แต่เปลี่ยนการทำงานของสมอง) แล้วพยายามกำหนดสติกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เคลื่อนย้ายพลังงานจากสมองไปยังจุดอื่นๆของร่างกาย (หากคุณมีสมาธิ จะทำได้)
หัวยังมึนอยู่ แต่รู้สึกดีขึ้นมาก..... เข้านอนทันที
ตื่นเช้ามา รู้สึกเบามาก กายกับจิต "ตื่น" ทั้งคู่ นี่แหละสิ่งอัศจรรย์ที่แท้ของชีวิต
หากจิตตื่น แต่กายไม่ตื่น ก็ยังไม่ดีที่สุด
หาก ตื่นทั้งสองสิ่ง นั่นคือ "ตื่น" ที่แท้จริง
ลองดูสิครับ
แต่บางทีรสชาตืของมันก็ช่างเย้ายวนให้เราติด.... จนลืมตัว.....
พอรู่้ตัวอีกทีก็มักจะสายเกินไป
ผมจึงได้ "หยุด" มันชั่วขณะ..... มองเห็นข้อมูลในสมองที่มันแล่นไปมาอย่างรวดเร็ว มันชวนให้เรากลับไปเล่นอีก
ร่างกายเราล้าแล้ว แต่สมองมันไม่เคยล้า..... (นี่แหละที่ทำให้เราฝัน แม้กระทั่งตอนนอนหลับ)
ผมจึงใช้วิชา อิกคิวซัง แตะน้ำลาย นั่งสมาธิ (จริงๆแล้วคือนั่งกินส้ม หน้าบ้าน แต่เปลี่ยนการทำงานของสมอง) แล้วพยายามกำหนดสติกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ เคลื่อนย้ายพลังงานจากสมองไปยังจุดอื่นๆของร่างกาย (หากคุณมีสมาธิ จะทำได้)
หัวยังมึนอยู่ แต่รู้สึกดีขึ้นมาก..... เข้านอนทันที
ตื่นเช้ามา รู้สึกเบามาก กายกับจิต "ตื่น" ทั้งคู่ นี่แหละสิ่งอัศจรรย์ที่แท้ของชีวิต
หากจิตตื่น แต่กายไม่ตื่น ก็ยังไม่ดีที่สุด
หาก ตื่นทั้งสองสิ่ง นั่นคือ "ตื่น" ที่แท้จริง
ลองดูสิครับ
วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
มังกรเซน

ผมได้หนังสือของคุณ วินทร์ เลียววาริณ มาเล่มนึงครับ ชื่อว่า "มังกรเซน" หน้าปกสวยทีเดียว ได้มาแล้ว ก็ทยอยอ่านไปเรื่อยๆ ราวกับหนอนที่ค่อยๆแทะใบไม้ไปทีละนิด อ่านอย่างมีความสุขพอสมควร อ่านไปยิ้มไป อ่านไปงงไป อ่านไปหัวเราะไป
นี่แหละเซน สีสันของมัน มีชีวิตชีวามาก
แต่อย่าลืมนะครับว่า เมื่ออ่านแล้ว อย่าไปยึดติดกับมัน
เพราะ "มือที่ชี้ไปที่ดวงจันทร์ หาใช่ดวงจันทร์ไม่"
อ่านแล้ว เข้าใจ เข้าใจแล้ว มองเห็น มองเห็นแล้วเงียบ.......
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)