บทความทั้งหมดนี้ เขียนขึ้นจาก "ความเชื่อ" และ จินตนาการ ของผม
จิตของมนุษย์ ดำเนินอยู่ในอีกมิติหนึ่ง ที่ไม่ใช่มิติเดียวกันกับโลกใบนี้ โลกใบนี้จำกัดอยู่ในมิติจำนวน 4 มิติเท่านั้น หรือประสาทสัมผัสของเรา รับรู้เพียง 4 มิติเท่านั้น (แกน x,y,z และ เวลา) เมื่อเรายังไม่เกิด หรือจุติ ขึ้นมานั้น จิตของเรา ยังดำเนินอยู่ในมิติอื่น เป็นอิสระ และเมื่อเรา ได้โอกาส ที่จะ จุติ ขึ้นมา จิต มารวมกับ กาย จิต เราจึงถูกจำกัดให้เหลือเพียง 4 มิติ แต่สิ่งที่ได้ก็คือ กาย เราใช้ประโยชน์จาก กาย ของเรา เพื่อเรียนรู้ "ปัญญาอันยิ่งใหญ่" แห่งจักรวาล ดังนั้น การเกิดมา ก็เพื่อ ศึกษา เรียนรู้ ถึงปัญญาอันนี้ จักรวาลของเรา "ช่างอัศจรรย์" ยิ่งนัก
สมองของมนุษย์ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มนุษย์เข้าใจ ปัญญาแห่งธรรมชาติ ได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่เวลาบนโลก อาจน้อยเกินไป สำหรับการศึกษาให้เข้าใจ ธรรมะ ทั้งหมด กว่าสมองจะทำงานได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังต้องสาละวนกับสิ่งต่างๆ เช่นการสร้างความเจริญทางร่างกาย เรื่องครอบครัว เรื่องการเรียน ฯลฯ กว่าที่่จิตจะพร้อมสำหรับการศึกษา ธรรมะ บางคนก็มีอายุทางร่างกายมากแล้ว
เมื่อร่างกาย แก่ มากๆเต็มที่ มันก็จะ ตาย แต่จิตนั้นยังไม่ตาย จิตยังคงแสวงหา "ความรู้" ต่อไป จึงต้อง จุติ ขึ้นมาใหม่อีก ปัญหาของเรื่องก็คือ ธรรมชาติ มีความยุติธรรม การจุติ จึงเป็นไปตามผลของการกระทำ หรือ กรรม นั่่นเอง จิตบางดวง จึงไปเสียเวลาในการรับผลของกรรม อาจจะใช้เวลาเกิด-ตาย หลายรอบ (หลายชาติ) กว่าจะเริ่มเข้าใจในเรื่องของ กรรม และหยุดการสร้างกรรม แม้ทั้งดี และ เลว
สุดท้าย การเดินทางอันแสนยาวไกล จิตเข้าสู่ ปัญญาอันยิ่งใหญ่ รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และ "เป็นอมตะ" ไร้ซึ่งการเกิด-ตาย เพราะจิตเข้าใจ ถึงปัญญาอันสูงสุดแล้ว ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีความปรารถนาใดๆ เข้าสู่ ความว่างและึความสมบูรณ์ อันครบถ้วน.....
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น